โดย บก.สส.ภ.1
พฤศจิกายน 04, 2568 10:17:25
 8
ผบช.ภ.1
ปฎิบัติการล้มคอกม้า: บก.สส.ภ.1 จับกุมเครือข่ายคนไทยที่เป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและฟอกเงิน ในห้วงวันที่ 1 และ 2 พ.ย.68 ตามสั่งการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ภาณุเดช สุขวงศ์ รอง ผบช.สง.ก.ตร.ปฏิบัติราชการ ภ.1, พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.พีรศักดิ์ รอดบน รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง รอง ผบก.ปฏิบัติราชการ บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ชินโชติ วัฒนธนานพ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1 นำการปฏิบัติการโดย พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.นัฎฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.พูนสุข เตชะประเสริฐพร ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1, พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กก.สส.1-3 และ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ได้ทำการสืบสวนกลุ่มเครือข่ายคนไทยที่เป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและฟอกเงิน ที่เป็นเครือข่ายฟอกเงินให้กลุ่ม scammer โดยได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลมีพฤติกรรมรวมตัวกันเป็นกลุ่ม จัดหาบัญชีม้าเพื่อรับเงินจากกลุ่มแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ระหว่างประเทศ โดยมีหัวหน้าชาวจีนคอยสั่งการหญิงชาวไทยให้รวบรวมจัดหากลุ่มบุคคลที่จะรับโอนเงินจากการหลอกลวง นำเงินดังกล่าวมาฟอกด้วยวิธีการนำเงินสดไปและเปลี่ยนเป็นเงินสกุลคริปโตเคอเรนซี่ แล้วส่งต่อกลับคืนไปให้หัวหน้าชาวจีน โดยกลุ่มคอกม้าจะได้เงินเป็นเปอร์เซ็นของการกดเงินได้เป็นค่าตอบแทน จึงได้ทำการสืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งนำไปสู่การสะกดรอย เฝ้าสังเกตการณ์ และนำไปสู่การตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลาง ในสถานที่ต่างๆ - โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดจำนวน 8 คน โดยมีฐานความผิดแตกต่างกันตามพฤติกรรมความผิด ดังต่อไปนี้ 1.) ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและ มีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่และสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเป็นซ่องโจร หรือร่วมกันประชุมในที่ประชุมอั้งยี่หรือซ่องโจร 2.) ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่าหรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด 3.) เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด 4.) ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วย • กลุ่มผู้ควบคุมและสั่งการ (หัวหน้า/ผู้บริหารเครือข่าย) 1.น.ส.ภูชิษาฯ ควบคุมสั่งการ เลือกบัญชีธนาคารให้กลุ่มจีนใช้รับเงิน และรับเงินสดจากผู้ร่วมขบวนการ เพื่อนำไปส่งให้นายทุนชาวจีน • กลุ่มจัดหา-ควบคุมบัญชีม้า 2.น.ส.ศศิธรฯ กดเงิน-รวบรวมเงินสดส่งให้ น.ส.ภูชิษาฯ 3.นายอดิศักดิ์ฯ จัดหาบัญชีธนาคารให้ใช้เป็นบัญชีม้าให้กับ น.ส.ศศิธรฯ และควบคุมบัญชีม้าที่โรงแรม 4.นายเพชรฯ ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า นัดหมายและพาไปตามจุดถอนเงิน • กลุ่มผู้มอบบัญชีให้ผู้อื่นใช้ (เจ้าของบัญชีม้า) 5.น.ส.ฐญามนฯ บัญชีม้า-ถอนเงินสดแล้ว 6.นายไชยเชฏฐ์ฯ บัญชีม้า 7.นายสีชายฯ บัญชีม้า 8.นายดนุพลฯ บัญชีม้า *********************** จากการปฏิบัติการสามารถตรวจยึดของกลางได้ ดังนี้ 1.) เงินสด จำนวน 846,800 บาท 2.) บัญชีธนาคาร จำนวน 13 บัญชี 3.) บัตรกดเงินสด จำนวน 14 ใบ 4.) โทรศัพท์มือถือ จำนวน 18 เครื่อง 5.) ซิมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 23 ซิม 6.) เครื่องนับธนบัตร จากการซักถามทราบว่ากลุ่มคอกม้าที่ถูกจับกุมได้ย้ายฐานสแกนหน้าจากประเทศกัมพูชามาดำเนินการในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 เนื่องจากปัญหาแนวชายแดน โดยเฉลี่ยแล้วจะถอนเงินสดนำส่งให้ผู้จ้างวานในวงเงินประมาณ 1-2 ล้านบาท ต่อวัน จะได้ค่าตอบแทนเหมารวมร้อยละ 4 ของยอดถอนเงิน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้จากการสืบสวนขยายผลพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการส่งผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดกลับไปยังนายทุนชาวจีน โดยใช้วิธีการให้คนไทยนำเงินสดไปแลกเหรียญดิจิทัล จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาจะโอนเหรียญดิจิทัลกลับไปให้นายทุนชาวจีน ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป จากการปฏิบัติการดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจาก WARROOM PCT ตร.ในการตรวจสอบเส้นเงิน และประสานติดตามผู้เสียหาย โดยในเบื้องต้นตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายโอนเงินมายังกลุ่มคอกม้านี้ในวันที่ 2 พ.ย.68 และได้ถอนเงินที่ได้จากหลอกลวงออกมาที่ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว คือ 1.นายชาญวิทย์ฯ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 160,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.พนมทวน จว.กาญจนบุรี 2.นายอนุกูลฯ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 29,700 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ 3.น.ส.สิริย์ปัญญาฯ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 20,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.บางศรีเมือง จว.นนทบุรี ตำรวจภูธรภาค 1 จะตรวจสอบเส้นเงินในรายอื่นๆ ประสานการคืนเงืน (Money cash back) ให้กับผู้เสียหาย ต่อไป
ภ.1
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง